นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยในงาน “เสวนาสร้างความรู้และความเข้าใจการรับซื้อไฟฟ้า Solar PV Rooftop กลุ่มบ้านอยู่อาศัย” ถึงความคืบหน้าของการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้า Solar PV Rooftop กลุ่มบ้านอยู่อาศัย ภายหลังจาก กกพ. ได้ขยายระยะเวลาการรับซื้อไฟฟ้า Solar PV Rooftop ออกไปจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ว่า ขณะนี้มีประชาชนให้ความสนใจเข้ายื่นคำขอขายไฟฟ้ากับ 2 การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายมาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้ยอดการผลิตไฟฟ้าในส่วนบ้านอยู่อาศัยเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ 100 เมกะวัตต์ สำนักงาน กกพ. กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดงานเสวนาดังกล่าวขึ้น เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจให้กับประชาชนที่ต้องการจะเข้าร่วมโครงการ รวมถึงนำสถาบันการเงิน ที่มีโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการให้สินเชื่อมาร่วมให้ความรู้ และนำสินเชื่อด้านพลังงาน มาไว้ภายในงาน ซึ่งคาดว่าการขยายระยะเวลาการยื่นแบบคำขอขายไฟฟ้าในครั้งนี้ จะทำให้ยอดการยื่นแบบคำขอในกลุ่มบ้านอยู่อาศัย เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
“การเสวนาครั้งนี้ เป็นประโยชน์สำหรับประชาชนอย่างมาก เพราะจะทำให้ทราบทุกขั้นตอนของการเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่การเตรียมตัวทั้งด้านเอกสาร และสถานที่ รวมถึงการยื่นคำขอขายไฟฟ้า รวมถึงงบประมาณ แหล่งเงินทุนในการติดตั้ง Solar PV Rooftop โดยครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ได้นำสินเชื่อด้านพลังงานอัตราดอกเบี้ยพิเศษ มาร่วมในโครงการ Solar PV Rooftop ซึ่งถือเป็นอีก 1 แนวทางที่ช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของประเทศให้เพิ่มมากขึ้น ” นายกวิน กล่าว
ด้าน นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายใบอนุญาต สำนักงาน กกพ. กล่าวถึง กระบวนการขั้นตอนการขอใบอนุญาตว่า หลังจากที่มีการประกาศผลการรับซื้อแล้ว ผู้ที่มีสิทธ์เข้าร่วมโครงการสามารถเริ่มดำเนินการยื่นขอใบอนุญาตประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยโครงการที่อยู่ในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวงสามารถติดต่อขอรับแบบฟอร์มต่างๆ เช่น แบบแจ้งขอดัดแปลงอาคาร แบบคำขอรับใบอนุญาตให้ผลิตพลังงานควบคุม แบบแจ้งขอยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า และแบบฟอร์มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ สำนักงาน กกพ. ส่วนผู้ที่มีสิทธ์เข้าร่วมโครงการที่อยู่ในพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสามารถติดต่อขอรับเอกสารดังกล่าวได้ที่สำนักงาน กกพ. ประจำเขตทั้ง 13 เขต ทั่วประเทศ ทั้งนี้ หากไม่สะดวกที่จะเดินทางมาขอรับแบบฟอร์มก็สามารถดาวน์โหลดได้จาก www.erc.or.th
ส่วนความคืบหน้าการขออนุญาตใบประกอบกิจการโรงงาน ( รง.4 ) ขณะนี้ สำนักงาน กกพ.อยู ระหว่างการหารือร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าวให้กับกลุ่มบ้านอยู่อาศัยที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ให้ได้รับความสะดวกในการร่วมโครงการผลิตไฟฟ้าจาก Solar PV Rooftopและเพื่อให้ยอดการรับซื้อไฟฟ้า Solar PV Rooftop เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นายมนัส อรุณวัฒนาพร ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบไฟฟ้า ฝ่ายวิจัยและพัฒนาการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวถึง ขั้นตอนการยื่นคำขอขายไฟฟ้าการเชื่อมโยงระบบและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการการรับซื้อไฟฟ้าจาก Solar PV Rooftop ว่า กฟน.จะรับผิดชอบการรับซื้อไฟฟ้าในพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยผู้สนใจจะผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฟน.สามารถยื่นคำขอขายไฟฟ้าและการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้ากับ กฟน. พร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาได้ที่แผนกบริการ ที่ทำการ กฟน.ทั้ง 18 เขต ในพื้นที่ที่ติดตั้ง Solar PV Rooftop จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 และ กฟผ. จะทยอยประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบผ่าน www.mea.or.th พร้อมปิดประกาศ ณ ที่ทำการการไฟฟ้านครหลวง
ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก จะมีค่าใช้จ่ายในการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าและการตรวจสอบอุปกรณ์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ค่าก่อสร้างและปรับปรุงระบบจำหน่าย โดยในส่วนนี้สำหรับผู้ที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าของ กฟน. จะไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าของ กฟน. จะคิดตามค่าใช้จ่ายจริง และส่วนที่ 2.ค่าใช้จ่ายด้านเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า จำนวน 10,000 บาทต่อเครื่อง
นายสุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ผู้แทนกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท. ให้ความสำคัญในสินค้าและบริการด้านพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ที่สามารถสร้างและกระตุ้นจิตสำนัก ในการอนุรักษ์ รวมถึงการประหยัดพลังงานได้ในเวลาเดี่ยวกัน การจัดสัมมนานี้จึงมุ่งเน้นให้ภาคประชาชน มีความเข้าใจ มีความสะดวก ในการลงทะเบียน และ มั่นใจในมาตรการที่ภาครัฐ และองค์กรเอกชน ได้ร่วมกันให้การสนับสนุน และคาดหวังว่าประชาชนที่สนใจจะตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้เพื่อประโยชน์ของท่านในแง่การลงทุนที่คุ้มค่า ปลอดภัย อีกทั้งสามารถประหยัดพลังงานชาติได้อีกทางหนึ่ง
นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมไทย การสร้างพลังงานทดแทนภายในประเทศ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ นอกจากจะช่วยเสริมความมั่นคงให้แก่ระบบไฟฟ้าของประเทศแล้ว ยังสามารถลดปริมาณการนำเข้าเชื้อเพลิงและลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ ซึ่งจะลดปัญหาโลกร้อนได้อีกทางหนึ่งด้วย การเข้ามามีส่วนร่วมของภาคประชาชนด้วยการผลิตและขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาแก่ภาครัฐจึงมีประโยชน์ต่อประเทศเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการเข้ามามีส่วนร่วมของภาคประชาชนด้วยการผลิตและขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาแก่ภาครัฐจึงมีประโยชน์ต่อประเทศเป็นอย่างยิ่ง
แหล่งข่าว : Link